12/15/2557

แม้กระเทียมตัวแม่จะ "น้ำแตก" แต่ก็ไม่คิดแยกทางกับ mazda2 evil turbo

หลังเซ็ตเทอร์โบปุ๊บ ก็ได้จัดการเปลี่ยนเบาะใหม่ ซึ่งมีคอนเส็ปว่า มาแนว Mazdaspeed แทบจะทั้งลำละ งานนี้ก็ต้องเบาะ Mazdaspeed เพื่อรองรับแรงกระชากแบบกระทันหันที่จะเพิ่มขึ้น งานนี้สีดำเดิมๆคงจะไม่ใช่ละ จัดการเสาะแสวงหาเบาะใหม่ สีแดงสดมาติดตั้งภายในรถ

เบาะ MAZDASPEED สีแดงแสบตา

และสิ่งที่ต้องติดตั้งเพิ่มตามมานั่นคงจะไม่พ้น เกจวัดต่างๆ ขอชุดเล็กๆละกัน จัดชุดใหญ่ไปมันอาจจะดูเป็นรถสนามเป็นแน่แท้ งานนี้หนีไม่พ้นเกจชื่อดัง นาม Defi ประกอบด้วย Boots Water Temp Oil Temp รุ่น CR หน้าขาวไฟแดง เพื่อจะได้เข้ากับชุดหน้าเรือนไมล์ของเจ้า Mazda2 Evil คันนี้  ในส่วนของ Turbo Timer เพื่อที่จะมานับเวลาถอยหลังวอมเครื่องก่อนดับ เพื่อป้องกันแกนเทอร์โบคดหลังจากที่ซัดมาแล้วดับเครื่องจอด เป็นของ Apexi รุ่นปากกา ปรับบูสต์ไฟฟ้าใช้ของ Greddy Perfect B ติดไว้เวลาเจอคู่ต่อสู้เวลากินกันไม่ลง ค่อยขยับปรับบูสใหม่ โดยตั้ง Low Boots ไว้ 1 บาร์ และ Hi Boots ที่ 1.2 บาร์

เกจ Defi ทั้ง 3

ตัวห้องเครื่องก็ตกแต่งให้สวย ด้วยสายซิลิโคนสีฟ้า และปัดเงาอลูมิเนียมทุกชิ้น พร้อมจับค้ำโช๊คหน้า จากสำนักแต่งที่อยู่คู่กับรถ Mazda มานาน นั่นก็คือค้ำโช๊คยี่ห้อ Auto Exe นั่นเอง เนื่องจากค้ำโช๊คของ Mazdaspeed รุ่น Mazda2 นั้นไม่มีจำหน่าย จึงต้องใช้ยี่ห้อนี้แทน ในส่วนของฝาปิดน้ำมันเครื่องก็เป็นของสำนักแต่ง Mazdaspeed เช่นกัน


และแล้ววันตัดสินก็ได้มาถึง จูนครั้งที่ 3 นัดกับจูนเนอร์ที่ ไดโนชื่อดัง Test Car ถนน ศรีนครินทร์ ชื่อนี้ได้ยินมาว่า กราฟจริง แรงจริงไม่แต่งเติม

จูนเนอร์กล่าวขึ้นมาว่า อย่างน้อยๆซะ ก็น่าจะได้ซัก 160 ม้า เพราะรถเดิมมีอยู่แค่ 103 ม้าเท่านั้น และนำรถขึ้นไดโนเพื่อจูนเก็บรายละเอียดครั้งสุดท้าย วิ่งผ่านไป 2 รัน แรงม้าสูงสุดที่ได้มาเกินคาด ทั้งจูนเนอร์ พนักงาน และเพื่อนที่ไปด้วย ต่างก็ตกใจ เพราะกราฟชันขึ้นไปชี้ไปที่ตัวเลย 223 ม้า พร้อมกับแรงบิด 270 กว่าๆ ทั้ง 2 รัน สุดท้ายและท้ายสุด รันสุดท้ายก็คือรันที่ 3 ก็ได้เริ่มกันอีกครั้ง จูนเนอร์หวังเค้นให้ได้พลังแฝงทั้งหมด ออกมาให้ครบทุกตัว รอบฟาดไปยัน 6000 กว่าๆรอบที่เกียร์ 4 ด้วยความเร็วตามหน้าจอคอมที่ 187 กม/ชม. ทันใดนั้นเอง สิ่งที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น!!!


วัดแรงม้าบนไดโน ที่ Test Car ถนนศรีนครินทร์


น้ำในหม้อพักน้ำได้พุ่งทะลุขึ้นมาสูงราวกับน้ำพุที่เปิดอยู่แถวสวนสาธารณะ เพื่อนที่ไปด้วยกันทักขึ้นมาว่า เห้ยไอ้อั้ม "รถเอ็งน้ำแตกกกกก!!" พนักงานที่เหยียบคันเร่งมิด จึงได้เบาคันเร่ง อาการเสียงของเครื่องยนต์แปลกๆ มีน้ำไหลออกจากปลายท่อ ตัวผมเองก็ยังหัวเราะใจดีสู้เสืออยู่ พร้อมทั้งพูดขึ้นมาว่า แรงแสรดจนน้ำแตก พูดไปก็ขำไป และตัดสินใจไม่ขับกลับอู่ งานนี้ มาด้วยล้อของตนเอง แต่กลับด้วย สไลค์ออน หล่อจริงๆ ฮ่าๆๆๆ

ถึงอู่ปุ๊บ เปิดฝาปั๊บ โดยในใจคิดไว้ว่า งานนี้ ลูกแตกแน่นอน ทำใจไว้แล้ว อีกใจนึงก็คิดว่า นอนอู่อีกแล้วรถกรู ทุกสิ่งที่ดี ก็อาจมีเรื่องร้ายเข้ามาปน และในสิ่งที่ร้าย ก็ย่อมมีสิ่งที่ดีปนเข้ามาเช่นกัน ช่างพูดขึ้นมาว่า ลูกมันเหนียวจริงๆ ผมทำหน้าสงสัย พร้อมทั้งถามกลับไปว่า ตกลงเป็นไรครับพี่ ช่างยิ้มพร้อมพูดกลับมาว่า ประเก็นแค่นี้ มันทนกำลังอัดขนาดนี้ไม่ไหวหรอก สรุปคือ ประเก็นฝาสูบแตก หรือในภาษารถซิ่งเรียกว่า ประเก็นแล้บ หรือประเก็นปลิ้น

ที่อู่จัดการเปลี่ยนให้เรียบร้อย จัดการสั่งตัดประเก็นเหล็ก ให้คงทนกว่าเดิม สถานที่ตัดประเก็นนั้น น่าจะรู้จักกันดี ช. ประเก็น ชื่อนี้ ดังมาช้านาน กลับมาประกอบเครื่องดังเดิม และจูนเก็บรายละเอียดอีกครั้ง โดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นอีก งานนี้หล่ะ จบจริงๆแล้ว ใจผมคิดเช่นนั้น และไม่ว่ายังไง ถึงฝนจะตก แดดจะออก น้ำจะแตก ผมก็ไม่มีทางที่จะแยกทางจากเจ้า Mazda2 Evil Turbo คันนี้ได้

กราฟแรงม้าของเจ้า Mazda 2 Evil Turbo


0 ความคิดเห็น:

Share

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More